from the very interesting book called SAMPLE which bring 10 curators (include Alexander McQueen and Tim Blanks) to write about 100 designers. I'm here to bring you what I'm impress.
จากการไปเจอหนังสือ SAMPLE โดยบังเอิญ ความประทับใจก็แผ่ขยายให้ไปขโมยบางข้อความและบางภาพมานำเสนอ ตัวหนังสือพูดถึงจุดเริ่มของบรรดาดีไซเนอร์ร่วมสมัย ซึ่งคัดเลือกและเขียนโดย 10 ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น หาอ่านได้ที่ TCDC
Julie Verhoeven, London
จากการไปเจอหนังสือ SAMPLE โดยบังเอิญ ความประทับใจก็แผ่ขยายให้ไปขโมยบางข้อความและบางภาพมานำเสนอ ตัวหนังสือพูดถึงจุดเริ่มของบรรดาดีไซเนอร์ร่วมสมัย ซึ่งคัดเลือกและเขียนโดย 10 ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น หาอ่านได้ที่ TCDC
Julie Verhoeven, London
Julie Verhoeven designs fashion and accessories, stage costumes and album covers. She's worked as a stylist for runway shows and as a lecturer, animator and as a co-director for pop music videos. She's an artist, too, and at the core of all her work is her dreamscape style of illustration. "Everything, all my projects, starts life as a drawing," she says. Verhoeven's fashion career was launched in 2002 by Marc Jacobs who spied her illustrations in cult magazines and offered her the opportunity to design a Vuitton handbag. Swiftly the handbags became collector's items. Following ,Gibo - the Italian clothes manufacturer appointed her as designer-in-chief of a women's wear line. She working a look that was best described by writer Bethan Cole as "Seventies bohemian, artistic with an indie edge".
Alexander McQueen
จูลี่ เวอร์โฮเวน สร้างสรรค์ทั้งเสื้อผ้า, เอคเซสเซอร์รี่, คอสตูมละครเวที ไปจนถึงหน้าปกอัลบัม เธอเป็นทั้งสไตลิสต์หลังเวทีแฟชั่น วิทยากร แอนิเมเตอร์ และผู้กำกับร่วมของมิวสิควิดิโอเพลงป๊อป และที่แน่นอน เธอเป็นศิลปิน นั่นทำให้แก่นกลางของงานออกแบบทั้งหมดเกิดจากภาพวาดจากจินตนการสุดลึกล้ำ "ทุกๆอย่างและทุกๆโปรเจคของฉัน เกิดขึ้นจากภาพวาดค่ะ" เธอกล่าว เวอร์โฮเวนก้าวเข้าสู่เส้นทางแฟชั่นในปี 2002 จากการชักชวนของมาร์ก เจคอบส์ที่เห็นผลงานภาพประกอบของเธอในนิตยสารนอกกระแสสุดเท่อย่างไนลอน มาร์กให้เธอออกแบบกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง และกระเป๋าผลงานของเธอก็กลายเป็นชิ้นสำคัญที่เหล่านักสะสมออกตามล่า หลังจากนั้น Gibo บริษัทผลิตเสื้อผ้าจากอิตาลีก็จ้างเธอมาเป็นหัวหน้าดีไซเนอร์ดูแลเสื้อผ้าผู้หญิง และจูลี่ก็สร้างลุคที่คงจะอธิบายได้ดีที่สุดตามคำกล่าวของคอลัมนิสต์อย่าง เบธาน โคล ว่า"สไตล์โบฮีเมียนในยุคเจ็ดศูนย์บวกรวมเข้ากับศิลปะและความนำสมัยแหวกขนบ"
อเล็กซานเดอร์ แมคควีน
Anne Valerie Hash, Paris
Although masculine/feminie dressing and deconstuction are not exactly new elements in fashion world, the collections produced by Anne Valerie Hash take the concept to a new level. "It's all about the energy of a man, mixed with the sensuality of a woman," she explains. Inside her tiny Paris. Marais atelier, Hash works with men's garments, pulling them a part, playing with their form and thereby remaking a woman's pattern by reinterpreting their traditional shape. She's fashioned a sexy décolleté from men's pinstripe trousers and recycled a man's shirt into a fitted bustier. "workingwith already-existing clothing allow for accident to become part of the process," says Hash. "It's about the pleasure of playing."
Stephen Todd
ถึงแม้ว่าการนำเครื่องแต่งกายทั้งของผู้ชายและผู้หญิงมาตีความและสร้างรูปแบบขึ้นใหม่จะไม่ใช่สิ่งใหม่ในวงการแฟชั่น แต่คอลเลกชั่นจาก แอนน์ วาเลริเย่ อาช ก็นำพาแนวความคิดนั้นไปอีกระดับ "มันคือการนำพละกำลังของผู้ชายมาผสมกับความเย้ายวนของผู้หญิง" เธออธิบาย ภายในสตูดิโอย่าน Marais ในปารีส อาชทำงานกับเสื้อผ้าผู้ชาย เธอนำมันมาแยกเป็นชิ้นๆ เล่นกับรูปทรงของเสื้อผ้าเหล่านั้น และสร้างสรรค์แพทเทิร์นเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยการตีความแพทเทิร์นแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ในแบบของเธอเอง เธอสร้างเสื้อคอลึกแสนเซ็กซี่จากกางเกงสูทของผู้ชาย และรีไซเคิลเสื้อเชิ้ตผู้ชายไปเป็นเสื้อเกาะอกฟิตพอดีตัว "การทำงานจากเสื้อผ้าที่มีอยู่แล้วเป็นการเปิดโอกาสให้ความบังเอิญได้เข้ามามีส่วนในกระบวนการค่ะ" อาชกล่าว "มันเป็นเรื่องของความสุขในการได้เล่นสนุก"
สตีเฟ่น ทอดด์
Georgina Goodman, London
Goodman takes delight in words. Her label reads: 'Georgina Goodman Made in Love', while her mantra is 'All Is One' and that is writ large in her organic approach to design. The sole and uppers of her carefully constructed, artistic shoes are made from a single stripe of leather. 'It's a new way of making shoes' she says of her approach. 'I found I had this spatial awareness and was able to translate a 3-D idea into a 2-D shape. A good designer has to know how to react and move with the times.' Goodman's shoes patterns look extraordinary, like tangerine peels: one continuous shape which is cut from leather, folded, moulded (rather than glued) and stitched to create her highly crafted shoes. 'We have such an emotional relationship with our shoes," says Goodman explaning her painstaking approach. 'You never say, "I love my trousers," but always say, "I love these shoes"'
Harriet Quick
กู๊ดแมนชอบคำพูดอันสุขใจ ป้ายยี่ห้อแบรนด์เธอเขียนว่า "Georgina Goodman Made in Love"ในขณะที่บทสวดประจำใจของเธอคือ "ทุกสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว" และบทสวดนั้นก็สามารถเห็นได้โดยง่ายจากงานดีไซน์ของเธอ ตั้งแต่พื้นรองเท้าไปจนถึงส่วนบนของรองเท้าสุดอาร์ตถูกก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นจากหนังเพียงชิ้นเดียว "มันเป็นวิธีใหม่ในการทำรองเท้า" เธอกล่าวถึงแนวความคิดของเธอ "ฉันพบว่าฉันมีความสามารถพิเศษที่สามารถแปลงแบบรองเท้าสามมิติให้เป็นรูปทรงสองมิติได้ ดีไซเนอร์ที่ดีควรจะรู้วิธีที่จะตอบสนองและก้าวตามสมัยที่เปลี่ยนแปลง" รองเท้าของกู๊ดแมนดูหน้าตาแปลกประหลาดคล้ายกับเปลือกส้มซึ่งเกิดจากรูปร่างอันต่อเนื่อง ที่ถูกตัดออกมาจากชิ้นหนัง พับ และใช้ความร้อนติดเข้าด้วยกัน (มากกว่าที่จะใช้กาว) และในที่สุดถูกเย็บเพื่อสร้างรองเท้าอันพิถีพิถัน "เรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับรองเท้า"คุณจะไม่เคยพูดว่า"ฉันรักกางเกงตัวนี้จัง"แต่คุณจะพูดอยู่เสมอๆว่า"ฉันรักรองเท้าคู่นี้"
แฮเรียต ควิก
Love,
Pan's Holiday
Love,
Pan's Holiday
1 comment:
Did you mean this entry? If so, I don't see any mistake posting it ni.
Post a Comment